SNMP (Simple Network Management Protocol)

SNMP เป็น Network Management Protocol ตัวหนึ่งซึ่งทำงานในระดับ Application Layer ใช้สำหรับการบริหารจัดการเครือข่าย โปรโตคอลนี้เป็นส่วนหนึ่งในชุดโปรโตคอล TCP/IP ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการประสิทธิภาพ, วิเคราะปัญหา และให้ข้อมูลเพื่อใช้สำหรับวางแผนเครือข่ายในอนาคต
SNMP ใช้แนวคิดของผู้จัดการ (Manager) และตัวแทน (Agent) ซึ่ง Manager นั้นส่วนใหญ่จะเป็น Host (PC) ซึ่งควบคุมและติดตามกลุ่มของ Agent มักจะเป็น Router
SNMP เป็นโปรโตคอลที่ทำงานในระดับ Application Layer ซึ่งอาจจะมี 1 หรือ 2-3 สถานีควบคุมของ manager ที่ควบคุมกลุ่มของ agent โปรโตคอลนี้ออกแบบมาทำงานชั้น Application ดังนั้นมันจึงสามาถติดตามควบคุมอุปกรณ์ที่ผลิตมาต่างกัน และการติดตั้งทางกายภาพที่ต่างกัน SNMP มีความเป็นอิสระในการจัดการงานจากทั้งคุณลักษณะทางกายภาพของอุปกรณ์ที่ถูกจัดการ และภายใต้เน็ตเวิร์กเทคโนโลยี มันสามารถใช้ในระบบเน็ตเวิร์กที่ไม่เหมือนกันของการเชื่อมต่อ LANs และ WANs โดย Router ซึ่งมีการผลิตที่ต่างกัน
ซึ่งสรุปการบริหารจัดการเครือข่ายโดย SNMP จะกระทำบน 3 แนวคิดพื้นฐานดังนี้
1. Manager จะร้องขอข้อมูลกับ Agent และทำการตรวจสอบพฤติกรรมของ Agent จากข้อมูล
ที่ส่งกลับมา
2. Manager สั่งให้ Agent ดำเนินการทำงานโดยทำการเปลี่ยนค่าใหม่ ใน Database ของ Agent
3. Agent สามารถที่จะช่วยเหลือกระบวนการบริหารจัดการโดยนส่งข้อความไปเตือนManager
ถ้ามีสถานะการที่ไม่ปกติเกิดขึ้น
SNMP Packet-Switched Data Networks
ใน SNMPv3 ได้กำหนดประเภทของ Packet (หรือ PDU) ไว้ 8 ประเภทด้วยกัน คือ GetRequest, GetNextRequest, GetBulkRequest, SetRequest, Response, Trap and Report
SNMP ใช้แนวคิดของผู้จัดการ (Manager) และตัวแทน (Agent) ซึ่ง Manager นั้นส่วนใหญ่จะเป็น Host (PC) ซึ่งควบคุมและติดตามกลุ่มของ Agent มักจะเป็น Router
SNMP เป็นโปรโตคอลที่ทำงานในระดับ Application Layer ซึ่งอาจจะมี 1 หรือ 2-3 สถานีควบคุมของ manager ที่ควบคุมกลุ่มของ agent โปรโตคอลนี้ออกแบบมาทำงานชั้น Application ดังนั้นมันจึงสามาถติดตามควบคุมอุปกรณ์ที่ผลิตมาต่างกัน และการติดตั้งทางกายภาพที่ต่างกัน SNMP มีความเป็นอิสระในการจัดการงานจากทั้งคุณลักษณะทางกายภาพของอุปกรณ์ที่ถูกจัดการ และภายใต้เน็ตเวิร์กเทคโนโลยี มันสามารถใช้ในระบบเน็ตเวิร์กที่ไม่เหมือนกันของการเชื่อมต่อ LANs และ WANs โดย Router ซึ่งมีการผลิตที่ต่างกัน
ซึ่งสรุปการบริหารจัดการเครือข่ายโดย SNMP จะกระทำบน 3 แนวคิดพื้นฐานดังนี้
1. Manager จะร้องขอข้อมูลกับ Agent และทำการตรวจสอบพฤติกรรมของ Agent จากข้อมูล
ที่ส่งกลับมา
2. Manager สั่งให้ Agent ดำเนินการทำงานโดยทำการเปลี่ยนค่าใหม่ ใน Database ของ Agent
3. Agent สามารถที่จะช่วยเหลือกระบวนการบริหารจัดการโดยนส่งข้อความไปเตือนManager
ถ้ามีสถานะการที่ไม่ปกติเกิดขึ้น
SNMP Packet-Switched Data Networks
ใน SNMPv3 ได้กำหนดประเภทของ Packet (หรือ PDU) ไว้ 8 ประเภทด้วยกัน คือ GetRequest, GetNextRequest, GetBulkRequest, SetRequest, Response, Trap and Report

รูปแสดง SNMP UDPs
§ GetRequest ใน GetRequest PDU จะส่งจาก Manager ไปยัง Agent เพื่อบอกว่า Manager ต้องการทราบข้อมูลอะไรจาก Agent ซึ่งกำหนดโดย Object Identifier ที่ส่งไปพร้อมกับ Message เช่น Manager ระบุ Object Identifier เป็น 1.3.6.1.2.1.1.1.0 ซึ่งเป็นการระบุว่าต้องการทราบข้อมูล sysDescr หรือส่วนของรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ตัว Agent ทำงานอยู่ ซึ่งทาง Agent ก็จะตอบข้อมูลรายละเอียดของอุปกรณ์ตัวที่มันทำงานอยู่กลับมา
§ GetNextRequest ใน GetNextRequest PDU จะส่งจาก Manager ถึง Agent ในการที่จะเอาค่าตัวแปร โดยค่าที่ได้จะเป็นค่าของ Object ตัวต่อจาก Object ID ตัวที่กำหนดใน PDU ส่วนใหญ่มักจะใช้ในการเอาค่าของการเข้าไปตาราง ถ้า Manager ไม่รู้ index ของการเข้ามันจะไม่สามารถดึงค่าออกมาได้ แต่เราใช้ GetNextRequest และกำหนด Object ID ของตารางเพราะ entry ตัวแรกจะต่อจาก Object ID ของตารางทันที ก็จะได้ค่าของ First entry ตัวแรกกลับมา Manager สามารถใช้ Object ID นี้ในการเอาค่าของตัวถัดไปเรื่อย ๆ ตัวอย่างเช่น Manager ส่ง GetNextRequest ที่ให้ Object Identifier เป็น 1.3.6.1.2.1.1 ซึ่งเป็นการเข้าถึงกลุ่ม System ใน MIB โดยที่ไม่ได้ระบุว่า ต้องการ ทราบข้อมูลอะไรในกลุ่ม System ดังนั้นเมื่อเวลาที่ Agent ส่ง GetResponse กลับมาให้มันก็จะส่งค่าของ Object Identifier เป็น 1.3.6.1.2.1.1.1.0 ซึ่งก็คือค่าของ SysDescr ที่อยู่ในกลุ่ม System ซึ่งเป็นค่าของ Object Identifier ตัวถัดไปใน Tree นั่นเอง
§ GetbulkRequest ใน GetbulkRequest PDU นั้นจะส่งจาก Manager ไปที่ Agent ในการที่จะเอาค่าของข้อมูลจำนวนมาก มันสามารถใช้ GetRequest หรือ GetNextRequest หลาย ๆ ครั้งแทนได้
§ SetRequest ใน SetRequest PDU ส่งจาก Manager ไปที่ Agent ในการ Set (Store) ค่าลงในตัวแปร หรือเปลี่ยนแปลงค่า Configuration ต่าง ๆของข้อมูลใน MIB ของอุปกรณ์นั้น ๆ
§ Response ในResponse PDU ส่งจาก Agent มาทื่ Manager ในการตอบสนอง GetRequest หรือ GetNextRequest ซึ่งจะบรรจุค่าของตัวแปรที่ร้องขอโดย Manager
§ Trap ใน Trap PDU (เรียก SNMPv2 Trap เพื่อให้ต่างจาก SNMPv1 Trap) ส่งจาก Agent ไปสู่ Manager เพื่อรายงานเหตุกาณ์ตัวอย่าง เช่น ถ้า Agent ทำการรีบูต (Reboot) ก็จะแจ้ง Manager และรายงานเวลาที่ทำการรีบูต
§ InFormRequest ใน InFormRequest PDU จะส่งจาก Manager ตัวหนึ่งไปยัง Manager ตัวอื่น ๆ ที่อยู่ไกลออกไป เพื่อรับค่าของตัวแปรบางตัวจาก Agent ภายใต้การควบคุมของ Manager ที่อยู่ไกลออกไปนั้น ซึ่ง Manager ที่อยู่ไกลออกไปนั้นจะตอบสนองมาด้วย Response PDU
§ Report ใน Report PDU ออกแบบมาเพื่อรายงานข้อผิดพลาดบางประเภทระหว่าง Manger ด้วยกัน

ภาพแสดง Protocol SNMP capture จาก Program Wireshark
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น